วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คู่ชีวิต

ชีวิตของมนุษย์นั้น
ไม่ควรที่จะปล่อยให้อยู่อย่าง โสดๆ

โสด แปลว่า โดดเดี่ยวไร้คู่

เพราะชีวิตนี่เป็นของที่ต้องมีคู่ อย่างขาดไม่ได้ทีเดียว

ก่อนที่จะรุ้ว่าคู่ที่ขาดไม่ได้นี้คืออะไร
ก็ต้องมาดูกันก่อนว่าชีวิตคืออะไร?

ชีวิต แปลว่า ความเป็นอยู่

แล้วความเป็นอยู่นี้เองมันเป็นอย่างไรล่ะ

ก็อาจจะตอบได้ว่า

อ้อ...มันก็คือความเป็นไปตามธรรมดาของกฎของธรรมชาติไงล่ะ

ทีนี้ตามกฎของธรรมชาตินี้เป็นอย่างไร?

กฎของธรรมชาติก็ คือ ความเปลี่ยนแปลง
ความทนอยู่ในสภาพเดิมชั่วกาลไม่ได้ และความเป็นไปตามการประกอบประชุมรวมกันของมวลแห่งเหตุปัจจัยต่างๆ
ไม่ใช่ตัวตนอันเที่ยงแท้ถาวร หรือที่เรียกกันในภาษาพระว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั่นเอง

ดังนี้เอามารวมกัน
ชีวิต ก็คือ สิ่งที่มีความเป็นไปต่างๆ ไม่อาจจะทนอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอดเวลา
สิ่งใดไม่ไม่อาจจะทนอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอดเวลา สิ่งนั้นย่อมไม่แน่นอนเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ
สิ่งใดไม่แน่นอนเปลี่ยนแปลงได้เรื่อย สิ่งนั้นไม่ใช่ตัวตน

ทีนี้หากเราไม่เข้าใจในข้อที่วาชีวิตคืออะไร
ชีวิตเป็นอย่างไร ก็จะไม่เข้าใจว่าอะไรที่ควรอยู่เป็นคู่ชีวิต

แล้วคู่ชีวิต นี่มีทำไม?

มีก็เพื่อจะได้รู้ เข้าใจ จนกระทั่งมีเกราะกำบังป้องกันไม่ให้หลงโง่ไปหยิบฉวยเอาตัวชีวิตนี้ขึ้นมาว่าเป็นตัวเอง

แล้วคิดไปเองว่ามันเป็นของที่เที่ยงแท้ไม่แปรเปลี่ยน

เป็นของที่มีความสุขมาก

เป็นของที่อยู่ภายใต้อำนาจความต้องการบังคับบัญชาของเรา

และขยายความโง่งมงายนี้ต่อไปถึงสิ่งที่แวดล้อมเกี่ยวเนื่องกับชีวิตด้วย เช่น วัตถุสิ่งของ ความรู้สึก นึกคิด ความรัก เป็นต้น

จนทำให้เผลอเอาตัวเองเข้าไปเป็น "ทุกข์" 

แล้วก็เลยเถิดไปเห็นผิดว่า "ทุกข์" เป็นเรา

เราเป็นคนผู้ "ทุกข์"

"ทุกข์" เป็นของเรา

มันก็กัดใจของเราเอา
ทำให้ต้องทนทรมานกับสิ่งที่ "เรา"
สร้างขึ้นมาเองจากสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน และไม่ได้มีอยู่จริงๆ

แล้วอะไรหละที่พูดมายืดยาวนี่
อะไรกันหนอคือสิ่งที่ควรเอามาเป็นคู่ชีวิต เพื่อไม่ให้หลงไปโดดเดี่ยว เดียวดาย
วุ่นวายเป็นทุกข์เพราะความงมงายของตัวเอง

ก็ขอพูดดังๆ ว่า!

"ธรรมะ ธรรมะ ธรรมะ" นี่แหละคือ "คู่ชีวิต"

หากรู้จักเอาธรรมะมาเป็นคู่ของชีวิตแล้ว
ย่อมจะไม่งมงายหลงไป "เป็นทุกข์"

เพราะ“ธรรมะ”ก็คือการปฏิบัติการวางใจให้ยอมรับตามเป็นจริงว่าสิ่งทั้งหลายนี้

“มันเป็นเช่นนั้นเอง”

พอได้รู้อย่างนี้ว่า "ทุกข์น่ะมันมี แต่เราน่ะไม่มี"

แล้วใครมันจะไปทุกข์หละ
มันก็แค่เห็นเท่านั้นๆ จบๆ
แค่นี้แหละ จบง่ายๆ เท่านี้

ครูทิดเบิร์ด
๑๑.๐๐น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น