ในการเลือกคนเพื่อคบหาเป็นแฟนกันนั้น เราอาจจะคำนึงถึงในหลายแง่หลายมุม อาทิเช่น รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ ฐานะเงินทอง และชาติตระกูล เป็นต้น ซึ่งความจริงแล้วสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้มีแก่นสารหรือหลักประกันความขัดแย้ง การทะเลาะวิวาทการเบียดเบียนทางกายทางใจ หรือความสุขใดๆในภายหน้าได้เลย เป็นได้แต่เพียงเครื่องเชิดหน้าชูตาไว้อวดคนอื่นเท่านั่นเอง ซึ่งหากมองว่าแค่ต้องการคบเป็นแฟนเป็นคู่คบเฉยๆ ไม่ได้มุ่งหมายถึงคู่ชีวิตหวังร่วมสร้างครอบครัวก็คงพอจะทำให้ได้รับได้สัมผัสความทุกข์ระทมได้ชั่วระยะหนึ่งแล้วผ่านไป และเช่นกันก็คงทำให้ได้รับความสุขสมดั่งใจหมายได้ชั่วระยะหนึ่งเช่นกัน เท่านี้คงจะไม่เป็นไร
แต่ถ้าหากจะเลือกคู่ครองเพื่อมาเป็นคู่ชีวิตแล้วละก็กระผมเห็นเพียงข้อเดียวที่ต้องพิจารณาอันจะเป็นหลักประกันความสุข ความสงบร่มเย็นของครอบครัวในภายภาคหน้า นั่นก็คือ "ศีลธรรม" หากคุณเลือกคนที่มีศีลธรรมเป็นคู่ครองเพื่อครองชีวิตร่วมกันแล้วละก็ชีวิตครอบครัวของคุณก็จะมีแต่ความสงบร่มเย็น ด้วยศีลธรรมนั้นหมายถึงความประพฤติหรือการกระทำอันถูกต้องต่อการดำรงชีวิตด้วยการไม่เบียนเบียนตนเองและผู้อื่น จะดีไหมถ้าคุณมีคู่เป็นคนที่มีความรักความปรารถนาต่อกันอยู่เสมอ ประกอบสัมมาอาชีพ มีความซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง รักความจริงพูดแต่ความจริง และเป็นผู้มีความเป็นปกติสุขุมมีความรู้สึกตัวอยู่เสมอไม่เกี่ยวข้องกับเครื่องดองของเมาอันเป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งทั้งหลาย
นี่เป็นเพียงการนำเสนอในแง่มุมของความจริงตามหลักเหตุและผลธรรมดาของโลก ส่วนการตัดสินใจเลือกสรรนั้นอยู่ในกำมือของเราทุกคน อยู่ที่เราจะเลือก อยู่ที่เราจะตัดสินใจ ไม่มีอะไรกำหนดชีวิตเราได้เท่าตัวเราเอง.
(ติกฺขปัญฺโญ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น